DOUBT (2008) MOVIE REVIEW: DOUBT…AN UNPREDICTABLE MYSTERY

Doubt (2008) Movie Review: Doubt…an unpredictable mystery

Doubt (2008) Movie Review: Doubt…an unpredictable mystery

Blog Article

รีวิวหนัง Doubt (2008) เด๊าท์…ปริศนาเกินคาดเดา 


ประเภทของภาพยนตร์: ดราม่า


วันที่เข้าฉาย: 12 ธันวาคม 2551


ผู้กำกับ: John Patrick Shanley


นักแสดงนำ: Meryl Streep,Philip Seymour Hoffman,Amy Adams,Viola Davis


ความยาว : 104 นาที


Doubt-2008-Movie-Review-Doubt…an-unpredictable-mystery

 

เรื่องย่อ:


ดูหนัง 2024 ในปี 1964 ในพิธีมิสซาคาทอลิก ที่บรองซ์ บาทหลวงเบรนแดน ฟลินน์ได้เทศนาเกี่ยวกับความสงสัย บาทหลวงสังเกตว่าศรัทธาสามารถเป็นพลังที่รวมเป็นหนึ่งได้เช่นเดียวกับศรัทธา ซิสเตอร์อโลยเซียส อาจารย์ใหญ่ผู้เคร่งครัดของโรงเรียนประจำเขต ของคริสตจักร เริ่มรู้สึกกังวลเมื่อเห็นเด็กชายคนหนึ่งถอยห่างจากเขาในลานบ้านซิสเตอร์ ของเธอ ได้รับคำสั่งให้เฝ้าระวังกิจกรรมที่น่าสงสัยในโรงเรียน

ซิสเตอร์เจมส์ ครูสาวไร้เดียงสาได้รับคำขอให้โดนัลด์ มิลเลอร์ เด็กวัดและนักเรียนผิวสีเพียงคนเดียวของโรงเรียน ไปพบฟลินน์ที่บ้านพักบาทหลวง ฟลินน์กลับมาที่ชั้นเรียนด้วยความหงุดหงิด และเธอได้กลิ่นแอลกอฮอล์จากลมหายใจของเขา ต่อมาเธอเห็นฟลินน์วางเสื้อชั้นในไว้ในตู้เก็บของของโดนัลด์ เธอรายงานความสงสัยของเธอให้อลอยเซียสทราบและบอกว่าความสงสัยดังกล่าวทำให้ศรัทธาของเธอไม่สงบ อลอยเซียสบอกเธอว่าการแก้ไขสิ่งที่ทำผิดทำให้ต้องก้าวออกห่างจากพระเจ้าแต่กลับรับใช้พระองค์

อลอยเซียสและเจมส์เชิญฟลินน์เข้าไปในสำนักงาน โดยอ้างว่าเป็นการพูดคุยเกี่ยวกับงานคริสต์มาสของโรงเรียน ระหว่างการสนทนา ทั้งสองแสดงมุมมองที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงเกี่ยวกับวิธีที่คริสตจักรควรดำเนินการเกี่ยวกับชนชั้นแรงงาน ฟลินน์เชื่อในการเชื่อมโยงกับสมาชิกโบสถ์อย่างแข็งขันมากขึ้นผ่านความสนใจร่วมกันและกิจกรรมชุมชน แต่อลอยเซียสเชื่อว่าขอบเขตที่ชัดเจนซึ่งกำหนดโดยนักบวชจะช่วยอำนวยความสะดวกในการติดต่อกับสมาชิกโบสถ์

ในที่สุด อลอยเซียสก็หยิบยกโดนัลด์ขึ้นมาโดยสังเกตว่าเชื้อชาติของเขาทำให้เขาเสี่ยงต่อการถูกเลือกปฏิบัติ เธอระบุว่าแม้แต่ฟลินน์ก็ให้การปฏิบัติพิเศษกับเขา เช่น การพบกันเป็นการส่วนตัวเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เขาเริ่มตั้งรับกับการเหน็บแนมของเธอ และในที่สุดก็เปิดเผยว่าเขาเรียกโดนัลด์ไปที่ที่พักบาทหลวงเพราะเขาถูกจับได้ว่ากำลังดื่มไวน์ศักดิ์สิทธิ์ฟลินน์เก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับเพื่อปกป้องโดนัลด์ แต่ตอนนี้ที่อลอยเซียสบังคับให้เขาออกไป เขาต้องถูกปลดออกจากตำแหน่งเด็กวัด เจมส์โล่งใจมากเมื่อได้ยินคำอธิบาย คำเทศนาต่อไปของฟลินน์เกี่ยวกับความชั่วร้ายของการนินทา

ในชั้นเรียน โดนัลด์ไม่ได้สนใจเพราะเจมส์ถามคำถามประวัติศาสตร์ที่สำคัญ จิมมี่และคนอื่นๆ ยกมือขึ้น แต่เธอเรียกโดนัลด์และถามว่าคำถามคืออะไร เธอปฏิเสธที่จะให้คนอื่นช่วยโดนัลด์และบอกให้จิมมี่วางมือลง เมื่อเจมส์ถามโดนัลด์ว่าคำถามคืออะไรและเขาไม่รู้ เธอจึงเผชิญหน้ากับเขาที่ไม่ยอมฟัง เธอถามคำถามอีกครั้งและโดนัลด์ก็ไม่รู้คำตอบ จิมมี่ตอบคำถามได้อย่างถูกต้อง แต่เจมส์ส่งเขาไปที่อโลยเซียสเพราะพูดออกนอกเรื่อง

อลอยเซียสไม่เชื่อและไปพบแม่ของโดนัลด์เพื่อถามถึงความสงสัยของเธอ เมื่ออธิบายถึงความสัมพันธ์ที่อาจเกิดความรุนแรงระหว่างโดนัลด์กับฟลินน์ เธอรู้สึกตกใจกับความรู้สึกสับสนของนางมิลเลอร์ ในที่สุด แม่ของโดนัลด์ก็สารภาพอย่างน้ำตาซึมว่าโดนัลด์เป็นเกย์และกลัวว่าพ่อของเขาจะฆ่าเขาถ้าเขารู้ เธอเล่าถึงสถานการณ์ที่ยากลำบากของเธอว่า เนื่องจากเธอไม่สามารถปกป้องลูกชายจากความรุนแรงของพ่อได้

ฟลินน์จึงเป็นผู้ชายคนเดียวที่แสดงความเมตตาต่อโดนัลด์ ตำแหน่งของเขาที่โรงเรียนปกป้องเขาจากการถูกรังแก และการออกจากโรงเรียนตอนนี้อาจส่งผลกระทบต่ออนาคตที่ดีกว่าที่โรงเรียนสามารถมอบให้เขาได้ เธอขอร้องอลอยเซียสหากเธอต้องการสิ่งที่เธอต้องการ ให้ไล่ฟลินน์ออกแทนโดนัลด์ แต่ความปรารถนาหลักของเธออยู่ที่การที่โดนัลด์เรียนจบด้วยเกรดที่ดีภายในเดือนมิถุนายน

ฟลินน์รู้ว่าได้คุยกับแม่ของโดนัลด์แล้ว จึงขู่ว่าจะปลดอลอยเซียสออกจากตำแหน่งหากเธอไม่ยอมถอย เธอบอกเขาว่าเธอได้ติดต่อแม่ชีจากโบสถ์เก่าของเขาและพบประวัติการละเมิดในอดีต เขาต้องการทราบว่าเธอมีหลักฐานอะไร และเธอก็ยอมรับว่าสิ่งที่เธอมีคือความแน่ใจ ฟลินน์กล่าวหาว่าเธอไม่เชื่อฟังและกระทำการนอกเหนือหน้าที่ เธอขู่ว่าจะทำทุกวิถีทางเพื่อบีบให้เขาออกจากโบสถ์ แม้ว่าจะต้องถูกไล่ออกจากโบสถ์เองก็ตาม

ฟลินน์ประกาศว่าตนบริสุทธิ์และถามว่าเธอเองไม่เคยทำบาปมหันต์ เลยหรือไม่ อโลยเซียสปฏิเสธคำกล่าวอ้างของเขาว่าบริสุทธิ์และขู่จะแบล็กเมล์ถ้าเขาไม่ลาออกทันที เขายอมรับว่าการล่มสลายของเขาคงหลีกเลี่ยงไม่ได้หากเขาเพิกเฉยต่อคำขู่ของเธอ เขาจึงยืนยันว่าเขาไม่ได้ทำอะไรผิดและเธอเองก็มั่นใจที่จะทำผิดได้ เธอเรียกร้องให้ฟลินน์ขอย้ายตำแหน่ง ซึ่งเขาก็ทำ และกล่าวคำเทศนาครั้งสุดท้ายก่อนจากไป

ต่อมาไม่นาน อลอยเซียสบอกเจมส์ว่าฟลินน์ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งที่มีเกียรติมากขึ้นในโบสถ์ที่ใหญ่กว่า เธอเปิดเผยว่าเธอโกหกเรื่องการติดต่อกับแม่ชีที่โบสถ์เก่าของฟลินน์ และให้เหตุผลว่าหากเป็นเท็จ กลอุบายนี้คงไม่ได้ผล สำหรับเธอ การลาออกของเขาเป็นหลักฐานว่าเขามีความผิด เจมส์ยังคงเชื่อว่าฟลินน์บริสุทธิ์ และรู้สึกตกใจกับคำโกหกของเธอ แต่อลอยเซียสพูดซ้ำอีกครั้งว่า "ในการแสวงหาความผิด คนคนหนึ่งก็อยู่ห่างจากพระเจ้า" อย่างไรก็ตาม เธอเสริมว่าการทำเช่นนั้นมีราคาที่ต้องจ่าย จากนั้นเธอก็อุทานด้วยน้ำตาว่า "ฉันมีข้อสงสัย... ฉันมีข้อสงสัยมากมาย!"

 

ความรู้สึกหลังจากชมภาพยนตร์:


เนื้อหาในหนังยังสามารถตีความไปถึงความเป็นจริงในวงการศาสนา-สังคม-การเมือง ฯลฯ...ที่มักมีคนสองขั้วอยู่ร่วมกันเสมอโดยบาทหลวงเป็นตัวแทนผู้ที่ใกล้ชิดกับประชาชนและคลุกคลีกับสถานะการณ์ในโลกของความเป็นจริงปล่อยตัวสบายๆ  2umv.com

ซิสเตอร์หรือแม่ชีเป็นภาพตัวแทนของผู้ยึดมั่นในกฏ-ทฤษฎี พิธีรีตรองหรืออุดมการณ์อย่างเคร่งครัดพร้อมทั้งต้องพยายามรักษาภาพลักษณ์(ทำเป็นเก็ก 55)ของตัวเองตลอดเวลา ในหนังยังมีการแสดงสถานะการณ์เชิงสัญลักษณ์ ในจุดเล็กๆน้อยหลายจุดเช่นตอนรับประทานอาหาร...เหล่าซิสเตอร์ดูเคร่งเป็นระเบียบ ส่วนบาทหลวงนั้งรับประทานอาหารแบบผ่อนคลายเฮฮา...

บาทหลวงฟลินน์ มีสัมพันธ์สวาทกับเด็กผิวสีคนนั้นจริงหรือไม่? ถ้าไม่ทำไมต้องลาออก? ทำไมไม่สู้ให้ถึงที่สุดเพื่อพิสูจน์ตัวเอง? หรือไม่อยากต่อล้อต่อเถียงจึงเสียสละตัดปัญหาฯลฯ กลยุทธ์ล้วงลึกความจริงที่ ซิสเตอร์อลอยเซียส ใช้(การปั้นเรื่องโกหกหยั่งเชิง)เป็นวิธีการที่เหมาะที่ควรแล้วหรือ? ถ้าบาทหลวงทำจริงก็นับว่า

ซิสเตอร์อลอยเซียส เป็นบุคคลที่ฉลาดหลักแหลมและแม่นยำ แต่ถ้าไม่จริง?อันนี้ก็สุดแท้แต่การประเมินและการตีความของท่านผู้ชมแต่ละท่าน เนื่องจากหนังได้ทิ้งปม...ถึงแม้จะชิงลาออกแต่บาทหลวงก็ไม่ได้ยอมรับว่าตนทำอะไรเช่นนั้น และซิสเตอร์ถึงแม้ภายนอกดูมีความมั่นใจมากแต่ลึกๆก็มีความไม่แน่ใจลังเล-เคลือบแคลง

เพราะไม่ได้มีหลักฐานที่แจ่มชัด และถ้าสังเกตละเอียดอีกหน่อยจะพบว่าหนังเรื่องนี้ยังมีการสื่อนัยยะอื่นๆซ่อนอยู่อีกหลายประเด็น ความเชื่อ-ความเคลือบแคลงในพระเจ้า? ชนชั้นสีผิว, ศาสนากับสังคม, มาตรฐานการตัดสินจริยธรรม, ความเป็นจริงกับอุดมคติ ฯลฯ ใครไม่เคยดูถ้าสนใจก็ลองหามาดู ใครดูแล้วก็ควรต้องกลับไปดูซ้ำและตีความ-พิจารณาใหม่อีกรอบ

ถึงหนังไม่ได้สรุปว่าความจริงคือะไรแต่อย่างน้อยก็ให้แง่คิดดึงคนดูให้กลับมามีสติ ถอยออกมาก้าวหนึ่ง ไม่วู่วามฉาบฉวยในการตัดสินเรื่องต่างๆและบอกเป็นนัยๆว่าเรื่องบางเรื่องถึงแม้เป็นเรื่องที่ดูเหมือนจะไม่น่าอภิรมย์นักก็ไม่จำเป็นต้องเข้าไปตัดสินหรือจัดการใดๆ ปล่อยเลยตามเลยให้มันเป็นไปอาจจะมีผลดีมากกว่าทั้งต่อตนเองและบุคคลแวดล้อมอื่นๆ

#ดูหนังฟรี #ดูหนังใหม่2024 #Doubt #เด๊าท์…ปริศนาเกินคาดเดา

กลับด้านบน

Report this page